แชร์ประสบการณ์เข้าร่วมงาน DIGITECH ASEAN THAILAND 2023

Piyachart Temwipartsiri

2023.11.30

この記事は公開されてから1年以上経過しています。情報が古い可能性がありますので、ご注意ください。

สวัสดีครับ ผมปิยชาติ ตำแหน่ง Technical support ของบริษัท Classmethod ครับ เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปช่วยทางบริษัทออกบู้ทในงาน DIGITECH ASEAN THAILAND 2023 เลยอยากจะมาแชร์เรื่องราวต่างๆที่ได้สัมผัสและรู้สึกมาให้ทุกท่านได้อ่านกันครับ

งาน DIGITECH ASEAN THAILAND คืออะไร?

งาน DIGITECH ASEAN THAILAND 2023 เป็นงานที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและดิจิทัลระดับโลก เพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถเชื่อมต่อกับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและดิจิทัลบนการจัดงานบนพื้นที่จริงและให้เข้าถึงลูกค้าใหม่และคู่ค้าทางธุรกิจในยุคการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (digital transformation) โดยในปีนี้จะจัดงานที่ อาคาร 7 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 22-24 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา

รายละเอียดเพิ่มเติม
DigiTech ASEAN Thailand 2023 – งานแสดงสินค้าและสัมมนาด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลแห่งอาเซียน

บรรยากาศภายในงาน

ความน่าสนใจของงานในครั้งนี้เท่าที่ผมรู้สึกน่าจะเป็นบริษัทจากต่างประเทศที่มีจำนวนเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นจาก จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน อินเดีย เป็นต้น ตัวงานจัดในประเทศไทยก็จริงแต่การมาของบริษัทต่างๆเหล่านี้ทำให้งานดูอินเตอร์มาก
เท่าที่ได้พูดคุยผู้ประกอบการจากต่างประเทศที่สนใจมาเยี่ยมชมบูทของบริษัท หลายๆบริษัทจะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ซึ่งดูจากจำนวนผู้ประกอบการ กับเทรนในยุคปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยว่าธุรกิจนี้ต้องมาแรงแน่ๆ ส่วนตัวคาดหวังว่าจะได้มาเห็นการพัฒนารวมถึงการใช้งานในประเทศไทยในทางทางหนึ่งจากบริษํทเหล่านี้ต่อไปครับ

DigiTech ASEAN 2023

ความประทับใจ

ความประทับใจในงานนี้หลักๆมีอยู่ 3 ข้อครับ

1. ผู้ประกอบการในประเทศที่สนใจบริการ cloud

ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมบูทไม่ได้มีเพียงชาวต่างชาติแต่ยังมีคนไทยอีกไม่น้อยให้ความสนใจเกี่ยวกับ cloud
หลายๆท่านมีอายุพอสมควรแล้วแต่ก็ยังไม่ต้องการให้องค์กรตนเองหยุดนิ่ง ต้องการผลักดันให้บริษัทก้าวข้ามการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (digital transformation) ถึงขนาดมีบางท่านยืนคุยกันหลายสิบนาทีเพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะกันเลยทีเดียว ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายอันดีในอนาคตที่องค์กรเหล่านี้ให้ความสนใจบริการ cloud ซึ่งจะช่วยให้องค์กรนั้นๆเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดแน่นอน

แต่ทว่าก็มีหลายๆท่านที่ยังคงสนใจบริการ cloud แต่ยังติดปัญหาเกี่ยวกับการเก็บข้อมูลภายในประเทศ หรือ AWS Region ของประเทศไทยที่ยังไม่มา ด้วยเหตุผลทางธุรกิจกับทางรัฐก็ดี หรือ จะเป็นเหตุผลส่วนตัวก็ดี โดยส่วนตัวคิดว่าถ้า AWS Region ของประเทศไทย เริ่มใช้งานได้เมื่อไหร่เชื่อว่าจะเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการพัฒนาของประเทศไทยเลยทีเดียว

2. บริษัทได้มีการขึ้นไปแสดงวิสัยทัศน์ภายในงาน

อาจจะดูเป็นจุดเล็กๆสำหรับหลายๆท่านแต่สำหรับผมการที่มีตัวแทนไปพูดในงานที่มีความอินเตอร์สูงขนาดนี้เหมือนกับเป็นการประกาศให้ทั้่วโลกได้รู้จัก Classmethod มากขึ้นครับ ผมคนที่ร่วมบริษัทด้วยก็ดีใจไปด้วยรู้สึกได้เลยว่านี่เป็นอีกหนึ่งก้าวที่บริษัทที่จะสามารถก้าวต่อไปได้อย่างต่อเนื่องและมั่นคงครับ